ข้อกำหนดและเงื่อนไขการโอนสิทธิ
สัญญาโอนสิทธิเปลี่ยนชื่อผู้เช่าซื้อ
การโอนสิทธิเปลี่ยนชื่อผู้เช่าซื้อ หมายถึง การที่ลูกค้าเช่าซื้อรถยนต์/รถจักรยานยนต์ของบริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย ต้องการโอนสิทธิเปลี่ยนการผ่อนชำระให้ผู้อื่นมาเป็นผู้เช่าซื้อผ่อนค่างวดที่คงเหลืออยู่ต่อจากตนเอง แต่รายละเอียดการชำระค่างวดไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงเฉพาะชื่อผู้เช่าซื้อ และผู้ค้ำประกันเท่านั้น การโอนสิทธิสามารถทำได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
ตัวอย่าง : หากผู้เช่าซื้อเดิมทำสัญญาทั้งหมด 48 งวด ผ่อนมาแล้ว 28 งวด ค่างวดคงเหลือ 20 งวด ค่างวด งวดละ 5,000 บาท ผู้ที่จะมาผ่อนต่อ ก็ยังจะต้องชำระค่างวด งวดละ 5,000 บาท ทั้งหมด 20 งวด ต่อจากผู้เช่าซื้อเดิม
หมายเหตุ(1) : โดยผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกันท่านใหม่ จะต้องผ่านการพิจารณาตามเงื่อนไขของบริษัท และสัญญาของผู้เช่าซื้อท่านเดิมต้องไม่ติดเงื่อนไขที่ไม่สามารถโอนสิทธิได้ของบริษัท
ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถขอปิดบัญชีก่อนกำหนดได้ โดยจะได้รับส่วนลดของดอกเบี้ยที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ โดยให้คิดคำนวณตามมาตรฐานการบัญชีว่าด้วยเรื่องสัญญาเช่าที่คณะกรรมการกำหนดมาตรฐานการบัญชีตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพบัญชีกำหนดและปรับปรุงมาตรฐานการบัญชี เพื่อใช้เป็นมาตรฐานในการจัดทำบัญชีตามกฎหมายว่าด้วยการบัญชีและกฎหมายอื่น และเมื่อลูกค้าผ่อนชำระค่าเช่าซื้อครบตามสัญญาเช่าซื้อ กรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของรถจะเป็นของลูกค้าทันที
หมายเหตุ(2)***ระหว่างทำสัญญาผู้เช่าซื้อไม่สามารถเปลี่ยนผู้ค้ำประกันได้ ยกเว้นการโอนสิทธิ์เปลี่ยนผู้เช่าซื้อเท่านั้นถึงเปลี่ยนผู้ค้ำประกันได้
ข้อกำหนดและเงื่อนไขการโอนสิทธิการเช่าซื้อ
- รถยนต์คันดังกล่าวต้องจดทะเบียนที่กรมการขนส่งเรียบร้อยแล้ว (ไม่ใช่ป้ายแดง)
- ลูกค้าจะต้องไม่มียอดค้างชำระค่างวด และค่าเบี้ยปรับล่าช้ากับทางบริษัทฯ
- รถยนต์คันดังกล่าวต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และนำเข้ามาตรวจสภาพ ณ วันยื่นเอกสารการขอโอนสิทธิ
- ค่าธรรมเนียมพิจารณาคุณสมบัติของผู้ขอรับโอนสิทธิ จำนวน 400 บาท โดยชำระ ณ วันยื่นเอกสารการโอนสิทธิการเช่าซื้อ (ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี จะออกในนามผู้เช่าซื้อท่านเดิม)
- ผู้รับโอน และผู้ค้ำประกัน ต้องมีรายได้ต่อท่าน เท่ากับ หรือ มากกว่า 2 เท่าของค่างวด (ขั้นต่ำ 15,000บาท)
- ผู้โอน ผู้รับโอน และผู้ค้ำประกัน ต้องเข้ามาดำเนินการเซ็นสัญญาต่อหน้าพนักงานของบริษัทฯพร้อมกัน(นัดล่วงหน้า 3 วันทำการ) หรือผู้รับโอนและผู้ค้ำประกันสามารถมายื่นเอกสารเพื่อทำเรื่องอนุมัติได้ก่อน เมื่อเรื่องอนุมัติแล้วผู้เช่าซื้อท่านเดิมสามารถเข้ามาเซ็นต์เอกสารภายหลังได้
- กรณีรถจดประกอบการ (รถใหญ่) เมื่อโอนสิทธิการเช่าซื้อเสร็จเรียบร้อย ลูกค้าต้องเป็นผู้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในสมุดคู่มือจดทะเบียนรถ โดยการมัดจำสมุดคู่มือจดทะเบียนจากบริษัท เพื่อไปดำเนินการที่กรมการขนส่งทางบก
- ต้องนำรถเข้าตรวจสภาพ ตามพื้นที่ของป้ายทะเบียนเท่านั้น เช่น รถยนต์ป้ายทะเบียนจังหวัดเชียงใหม่ ต้องนำรถไปตรวจสภาพที่ขนส่งของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น
เงื่อนไขและค่าใช้จ่ายในการโอนสิทธิการเช่าซื้อ (ชำระเมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว)
- ชำระค่างวดล่วงหน้า 2 งวด
- ค่าอากรแสตมป์ติดสัญญาเช่าซื้อในอัตรา จำนวน 0.1% ของยอดหนี้คงเหลือ ณ ปัจจุบัน
- ค่าเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครอง และตรวจสภาพรถยนต์ตรวจในพื้นที่ 1,300 บาท / ค่าเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครอง และตรวจสภาพรถยนต์ตรวจต่างพื้นที่ 2,100 บาท
- ค่าประกันภัยชั้น 1 และ พ.ร.บ.ฉบับเดิม มีอายุไม่น้อยกว่า 3 เดือน ผู้รับโอนจะต้องทำประกันภัยชั้น 1 กับทางบริษัทฯ เท่านั้น และสลักหลังผู้รับผลประโยชน์ เป็น KL
- ค่าภาษีรถยนต์ / ค่าภาษีรถยนต์เพิ่มนิติบุคคล
- กรณีภาษีรถยนต์ จะครบกำหนดการชำระภาษีประจำปีภายใน 3 เดือน นับจากวันที่ได้รับผลการอนุมัติโอนสิทธิการเช่าซื้อ ผู้รับโอนจะต้องชำระค่าต่อภาษีเพื่อจะดำเนินการพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ครอบครองในคราวเดียวกัน
- จะมีค่าภาษีเพิ่มกรณีผู้รับโอนเป็นนิติบุคคล ตามหลักเกณฑ์กรมการขนส่ง
6. ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับการอนุมัติ ผู้โอน หรือ ผู้รับโอน ต้องชำระค่าใช้จ่ายทั้งจำนวนในการโอนสิทธิ
เพื่อดำเนินการโอนสิทธิการเช่าซื้อให้แล้วเสร็จ หากเกินกำหนดต้องยื่นเรื่องพิจารณาโอนสิทธิใหม่
ข้อควรระวัง : หากลค.ติดต่อเข้ามาเพื่อสอบถามการโอนสิทธิ ให้ตรวจสอบก่อนว่าลค.ท่านนั้นสามารถโอนสิทธิได้หรือไม่ ตามเงื่อนไข
1. รถยนต์คันดังกล่าวต้องจดทะเบียนที่กรมการขนส่งเรียบร้อยแล้ว (ไม่ใช่ป้ายแดง)
2. ลูกค้าจะต้องไม่มียอดค้างชำระค่างวด และค่าเบี้ยปรับล่าช้ากับทางบริษัทฯ
3. รถยนต์คันดังกล่าวต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และนำเข้ามาตรวจสภาพ ณ วันยื่นเอกสารการขอโอนสิทธิ